เนื่องจากว่าการใช้งาน GPS navigator จำเป็นต้องอาศัยสัญญาณจากดาวเทียมอย่างน้อย 3ดวงขึ้นไปเพื่อระบุพิกัดตำแหน่งที่เราถือ GPS นั้นๆครับ ถ้ายังไม่เข้าใจอ่าน GPS คืออะไร ก่อนครับ ซึ่งการจับสัญญาณดาวเทียมของ GPS ถ้าจับได้มากกว่า 3ดวงขึ้นไปจะทำให้มีความคลาดเคลื่อนน้อยลง แต่ถ้าจับสัญญาณดาวเทียมได้น้อยความคลาดเคลื่อนก็จะมากขึ้นลองดูรูปแผนที่นี่นะครับ
สมมุติให้ตำแหน่ง A เป็นตำแหน่งที่อยู่จริงนะครับ ถ้า GPS Navigator ของเราสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้มากกว่า 3ดวงขึ้นไป (คือเยอะๆเท่าไรยิ่งดีความแม่นยำก็จะสูง) ถ้าเราดูที่จอ GPS ตำแหน่งของเราก็จะอยู่ที่ A เช่นกันครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ GPS จับสัญญาณได้น้อย คือแค่ 3ดวงความคลาดเคลื่อนก็จะเกิดขึ้น อาจจะประมาณ 5-10เมตร ดังนั้น หน้าจอ GPS ของเราอาจจะระบุว่าตำแหน่งที่เราอยู่อาจจะเ้ป็นตำแหน่ง B ก็ได้ เมื่อเราดูที่หน้าจอ GPS กับถนนจริง มันเลยไม่เหมือนกัน อาจทำให้เรางง และเกิดการเข้าใจผิดในการนำทางของ GPS จึงเป็นเหตุทำให้เราหลงทางได้ครับ ทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าสัญญาณดาวเทียมที่ GPS จับได้มากหรือน้อย โดยส่วนใหญ่ GPS Navigator มันจะมีเมนูเพื่อดูความแรงของสัญญาณดาวเทียมครับ อาจจะเหมือนดังในรูปนี้ครับหรือคล้ายๆกันครับ
ทีนี้ปัญหาคือ ทำไม GPSถึงจับสัญญาณดาวเทียมไม่ได้หรือได้น้อยดวง ปัจจัยที่เกิดมีหลายประเด็นครับ หลักๆคือ ถ้าอยู่ในตัวเมืองเช่นกรุงเทพ ถ้าท่านวิ่งอยู่ใต้สะพานทางด่วน โทลเวย์ หรือ ใต้สะพานรถไฟฟ้า พวกนี้ มีผลอย่างมากที่ GPS จะจับสัญญาณไม่ได้ ครับ
ปัญหารองลงมาอีกอันคือ รถของท่านติดฟิล์มกรองแสงที่มีเนื้อโลหะเป็นตัวกันสัญญาณดาวเทียมครับ ฟิล์มบางยี่ห้อ สามารถรับได้ บางยี่ห้อ รับได้แต่ได้น้อยดวงลดทอนสัญญาณความแรงไป หรือบางยี่ห้อรับไม่ได้เลยครับท่านต้องลองทดสอบด้วยตัวเองโดยการเปิดรับสัญญาณ GPS นอกตัวรถก่อนดูว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน แล้วลองเข้าไปในรถว่าสัญญาณลดทอนมากน้อยแค่ไหน ครับ ปัญหาอีกอันแต่น้อยครับคือสภาพภูมิอากาศท้องฟ้าเป็นแบบปิดครับ ก็ทำให้ลดทอนสัญญาณได้ครับ ส่วนท่านที่ใช้ฟิล์มแล้วรับสัญญาณไม่ได้ก็อาจจะต้องใช้ตัวช่วย คือเสากระจายสัญญาณ หรือ GPS antenna radiator ครับ
อ่านบทความที่คล้ายกัน
ทำไม GPS นำทางถึงพาอ้อม
